Google

Wednesday, January 13, 2010

นกงูตักษกะกัดพระเจ้าปรีกษิต



พระเจ้าปรีกษิต ทรงถือพระแสงศรออกล่าเนื้อในป่า ทรงเหน็ดเหนื่อยเมื่อยล้าและกระหายน้ำเป็นกำลัง จึงเสด็จเที่ยวหาสระน้ำ ไปถึงอาศรมของฤษีศามิกะ ทอดพระเนตรเห็นฤษีกำลังหลับตาเข้าฌานอยู่ โดยมีหนังกวางคลุมกาย ผมสยายยาวคลุมตัว จึงได้ตรัสขอน้ำดื่ม แต่กลับมิได้รับการต้อนรับจากฤษีตามประเพณีอันดีงาม คือ เชิญให้นั่ง หาน้ำให้ดื่ม โอภาปราศรัยกับแขกด้วยปิยวาจา เห็นว่าฤษีรังเกียจพระองค์เกิดความกริ้ว จึงทรงเอาพระแสงศรไปเขี่ยซากงูตายมาพาดไว้บนบ่าของฤษี จากนั้นก็เสด็จกลับพระราชวัง

เมื่อเสด็จกลับมาถึงพระราชวังหลวงแล้ว พระเจ้าปรีกษิตก็ทรงนำเรื่องนี้มาครุ่นคิด ว่าฤษีเข้าฌานจริงหรือว่าเสแสร้งทำเพื่อจะได้ไม่ต้องต้อนรับขับสู้คนวรรณะกษัตริย์ซึ่งเป็นวรรณะที่ต่ำกว่าตนกันแน่

ฝ่ายฤษีศามิกะมีบุตรชายชื่อ ศฤงคี เป็นผู้มีฤทธานุภาพมาก ด้วยว่าเป็นคนเกิดในวรรณะพราหมณ์ เมื่อรู้ว่าพระเจ้าปรีกษิตลบหลู่ดูหมิ่นบิดา ก็ได้สาปพระเจ้าปรีกษิตว่า “ในวันที่ ๗ นับจากวันนี้ไป นกงูจะไปกัดพระเจ้าปรีกษิต คนชั่วชาดมารยาท ทำการหลบหลู่บิดาผู้บังเกิดเกล้าของเรา”

อีก ๗ วันต่อมา เมื่อนกงูตักษกะจะไปกัดพระเจ้าปรีกษิต ได้พบกัศยปะมุนีระหว่างทาง มันจึงเอาของมีค่าต่างๆมอบให้แก่มุนี โดยหวังที่จะติดสินบนยับยั้งมิให้มุนีซึ่งเป็นผู้เชี่ยวชาญในการรักษายาพิษเข้ามาขัดขวางช่วยเหลือ จากนั้นมันก็เนรมิตร่างเป็นพราหมณ์ไปกัดพระเจ้าปรีกษิต

เมื่อถูกงูตักษกะกัด ร่างของจอมราชาผู้ยิ่งใหญ่ก็พลันลุกไหม้กลายเป็นเถ้าธุลีด้วยไฟพิษ เหตุการณ์ครั้งนี้ตกอยู่ในเป้าสายตาของทวยเทพและมนุษย์ทั้งหลาย เกิดเสียงอื้ออึงตื่นตระหนกตกใจดังระงมทั่วทั้งสิบทิศ ทั้งในโลกมนุษย์และโลกสวรรค์ ทั้งทวยเทพ อสูร มนุษย์ และสัตว์ทั้งปวง ก็ตกตะลึงไปกับเหตุการณ์ครั้งนี้

ฝ่ายพระเจ้าชนเมชยะ เมื่อรู้ว่าบิดาของตนถูกงูตักษกะกัดตายเสียแล้ว ก็ทรงกริ้วรับสั่งให้พวกพราหมณ์ประกอบพิธีบูชายัญ โดยนำงูจากทั่วโลกมาเผาไฟ เป็นการเซ่นสรวงสังเวย.

แหล่งข้อมูลภาพ

No comments:

Post a Comment

Google

Custom Search